ชีวิตล่าสุด ‘เฮียหมู บางรักซอย 9’
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งซิทคอมในตำนาน สำหรับละครซิทคอมสุดฮิตอย่าง “บางรักซอย9” ซึ่งก็มีตัวละครที่เรียกเสียงหัวเราะสร้างรอยยิ้ม เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคนนั่นก็คือ “เฮียหมู”

โดยหลังจากที่มีกระแสข่าวออกไปในโลกออนไลน์ สำหรับกรณีของ เฮียหมู บางรักซอย 9 หรือ ชื่อ-นามสกุลจริง สมเจต พยัฆโส เฮียหมูเล่าว่า
พื้นเพเดิมเป็นอยุธยา สมัยก่อนครอบครัวทำอาชีพแสดงลิเก พ่อกับแม่เป็นลิเกอยู่คณะ บรรหาร ศิษย์หอมหวล ตัวเองเลยเข้ามาเล่นลิเกกับคณะศิษย์หอมหวล ที่ถนนตก กรุงเทพฯ
ต่อมาก็ได้มาแสดงตลก และได้มารู้จักกับ “น้ากล้วย เชิญยิ้ม” ก็มีการชักชวนกันไปเล่นละครซิทคอม “ตอนนั้นน้ากล้วย เล่นละครซิทคอม “เฮง เฮง เฮง”
ได้พูดคุยกันซึ่งเวลานั้นผู้กกำกับเขาอยากได้ตัวละครที่แสดงเป็นโจร ก็เลยเสนอเราไป ตอนนั้นยังใช้ชื่อว่า “เจต จิ้งจก” ซึ่งฉายานี้มาจากที่เราเป็นศิลปินตลก

ตัวเล็ก ๆ ผอม ๆ พวกก็เลยเรียก “เจต จิ้งจก” พอน้ากล้วยชวนมาเล่นละครซิทคอม “เฮง “เฮง “เฮง” แสดงเป็นโจร ผู้กำกับ “จิรศักดิ์ โย้วจิ้ว”
ตอนนั้นเขาอยู่บริษัทเอ็กซ์เเซก กำลังจะสร้างละครซิทคอมบางรักซอย 9 ในละครก็จะมีฉากร้านขายอาหาร มีพ่อค้าปากหมา
เขาก็เลยเห็นแววของเรา ก็เอาเราไปเล่นเป็น เจ้าของร้านขายอาหาร ชื่อว่า ร้านเฮียหมู ปากหมา”จากเด็กต่างจังหวัด มาเล่นลิเก ก้าวเข้ามาในเมืองหลวง
มีอาชีพเป็นนักแสดง จากชีวิตไม่มีชื่อเสียง ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในแวดวงการแสดง ใครต่อใครต่างเรียก “เฮียหมู” จากบทบาทนักแสดงซิทคอม
ทำให้มีงานอื่น ๆ ติดต่อ เข้ามาเรื่อย ๆ ทั้งงานเกมโชว์ งานละครที่ไม่ว่าจะให้ “เฮียหมู” รับบทอะไร “เฮียหมู” บอกว่า แกทำได้หมด
เพราะการทำงานกับคนจำนวนมากเราต้องตรงต่อเวลาไปก่อนเวลานัดยิ่งดีเป็นเวลากว่า 13 ปี ของ “สมเจต” หรือที่ได้รับบทบาทการแสดงเป็น “เฮียหมู”
ในละครซิทคอมบางรักซอย 9 โดยรายได้ส่วนใหญ่หลัก ๆ มาจากละครซิทคอมเรื่องนี้ ซึ่งเดือนหนึ่ง มีละครออนแอร์ 4 ตอน เมื่อได้เงินก็ต้องใช้ไป
เพราะลูกต้องเรียน บ้านต้องเช่า เป็นเวลากว่า 13 ปี ของ “สมเจต” หรือที่ได้รับบทบาทการแสดงเป็น “เฮียหมู” ในละครซิทคอมบางรักซอย 9
โดยรายได้ส่วนใหญ่หลัก ๆ มาจากละครซิทคอมเรื่องนี้ ซึ่งเดือนหนึ่ง มีละครออนแอร์ 4 ตอน เมื่อได้เงินก็ต้องใช้ไป เพราะลูกต้องเรียน บ้านต้องเช่า
เมื่องานแสดงลดลง “เฮียหมู บางรักซอย 9” ก็ผันตัวเองมารับบทบาทเป็นพ่อค้าในชีวิตจริงรวมกับภรรยาคู่ชีวิต หารายได้เลี้ยงครอบครัวและส่งลูกเรียน
ช่วงเวลาตี 3 ครึ่งของทุกวัน เฮียหมูจะขับรถออกไปจ่ายตลาดที่ตลาดมีนบุรีซึ่งเป็นตลาดแถวที่พักอาศัย เพื่อซื้อของมาทำกับข้าวขาย
เมื่อกลับมาถึงบ้านเฮียหมูกับภรรยาจะช่วยกันลงมือทำกับข้าว เวลาตี 5 ครึ่ง เป็นเวลาที่สองสามีภรรยาจะขนหม้อแกงที่ทำเสร็จแล้วขึ้นรถไปกระบะคู่ใจไปตั้งร้านขายข้าวแกงหน้าหมู่บ้านสัมมากร มีนบุรี
ไม่ไกลจากบ้านที่พักมากนัก ในแต่ละวันเฮียหมูจะทำกับข้าวเพียง 2 – 3 อย่าง เพราะด้วยกำลังของร่างกาย และสุขภาพที่ไม่สู้ดีนัก
ทำให้ทำกับข้าวได้ไม่มาก ผู้ชายในวัย 60 กว่า ที่วันหนึ่งเคยมีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จัก วันนี้ต้องมาเป็นพ่อค้าขายข้าวแกง ดิ้นรนเพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงชีวิตและครอบครัว
แต่ตลอดระยะเวลาการพูดคุยกับเฮีย ก็สัมผัสได้ว่า ชีวิตเฮียยังคงมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะตลอดเวลา ถามเฮียว่า รู้สึกอายหรือเขินบ้างหรือไม่
ที่แต่ก่อนเคยมีชื่อเสียงแล้ววันนี้ต้องมาเป็นพ่อค้าขายข้าวแกงเฮียบอกว่า ใคร ๆ เขาก็เป็นพ่อค้า แม่ค้า กันทั้งนั้น คนที่ทำอาชีพค้าขายทำไมต้องอายคนอื่นด้วย
เราทำอาชีพสุจริต ดีกว่านั่งรอเงินจากงานแสดงที่ไม่รู้ว่าวันไหนจะมีงานเข้ามา แต่ขายข้าวแกงนี่ มีเงินเข้ามาทุกวันแน่ ๆ
จากนี้ก็ยึดอาชีพพ่อค้าเป็นหลัก ช่วงเดือนสองนี้ ก็จะทำร้านใหม่ ขยายร้านและทำร้านให้มั่นคงกว่าเดิม