แก้มบุ๋ม เจอเพื่อนบ้านเม้าธ์แรงแกะหอยขายได้เงินหลักล้าน
ห่างหายไปจากหน้าจอทีวีนานพอสมควร สำหรับ แก้มบุ๋ม ปรียาดา นางร้ายสุดแซ่บ ที่ล่าสุดมีเรื่องให้ต้องปรี๊ดแตก เมื่อเจอข้างบ้านนินทา เม้าธ์แรงเป็นดาราตกอับ ผันตัวรับจ๊อบแกะหอยขาย
.jpg)
งานนี้เจ้าตัวก็ได้มาเปิดใจแบบตรงไปตรงมาว่า ตนห่างหายไปจากหน้าจอทีวี ไม่มีผลงานมานาน 5 ปีแล้ว มีแค่รับเชิญ ซีรีส์เล็ก ๆ น้อย ๆ
ซึ่งตอนนี้ก็แกะหอยโชว์ หอยไข่มุก ไม่ใช่หอยอย่างที่พวกคุณๆคิด หอยมุกค่ะ หอยมุก มันมาจากความชอบด้วย ก็เลยมาไลฟ์ขาย
จริงๆแก้มบุ๋มขายของออนไลน์มากว่า 20 ปี เริ่มแรกขายเสื้อผ้ามือสองของตัวเอง เพราะว่าเป็นคนที่ใส่เสื้อผ้าครั้งเดียว แล้วก็ไม่ใส่ซ้ำ เพราะว่าเสื้อผ้าเราถูก แม่บอกตั้งแต่เข้าวงการว่าอย่าใส่เสื้อผ้าซ้ำนะลูก
เพราะฉะนั้นหนูใส่เสื้อผ้าครั้งเดียวแล้วขาย สิ่งเดียวที่ใส่ซ้ำคือเสื้อใน กางเกงใน (หัวเราะ) เริ่มขายจากในอินสตราแกรม 80-50-20 บาท ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง20 ตอนนั้นน่าจะประมาณ 17-18
.jpg)
ทำไมเข้าสู้วงการแม่ค้าขายหอย? คือเราชอบ เหมือนกับว่าคนไทยชอบลุ้น ชอบเรื่องเสี่ยงดวง แปลกตา อันนี้เป็นเรื่องความตื่นเต้น อย่างหอยที่ขายเนี้ย
เราไม่สามารถลุ้นได้ว่าจะมีมุกกี่อัน ที่ขายคือมันเป็นหอยเลี้ยง ธรรมชาติครึ่งนึง คนครึ่งนึง นำเข้ามา แต่บอกมากไม่ได้นะคะ เดี๋ยวคนไปทำตาม มันสนุกในการลุ้นว่าแกะมาจะมี่กี่เม็ด
หนูก็ศึกษาเป็นลูกค้าท่านนึงมาก่อน ที่ติดตามการขายไข่มุก หมดเงินไปหลายแสนบาทกับการลุ้นเปิดมุก สุดท้ายไม่ถูกจริตแม่ค้าร้านนึง
เราหมดหลายบาทไม่ให้เป็นลูกค้าวีไอพี ก็เลยโกรธไปศึกษาเอง ก็ศึกษาว่ามันทำยังไง เปิดมุกเสร็จต่อยอดเป็นเครื่องประดับยังไง ซื้อมุกขั้นตอนนึง ซื้อเครื่องประดับขั้นตอนนึง
เมื่อถามว่าได้รายได้เยอะไหมในการขายหอย แก้มบุ๋ม เผยว่า เรื่องแบบนี้พูดไม่ได้หรอก มันเป็นความลับ แต่มันเทียบไม่ได้กับการเป็นดารา เบอร์ 30-40 แบบหนู
งานน้อย เงินน้อย ไม่มีอะไรมาก ฉะนั้นมีเงินช่องทางเดียวไม่รอด มันเป็นงานหลักในการหาเงินไปแล้วสำหรับการขายของออนไลน์
นอกจากนี้แก้มบุ๋มยังบอกอีกว่า ไม่เพียงแค่โดนวิจารณ์ว่าเป็นดาราตกอับจนต้องมาเป็นแม่ค้าเท่านั้น ตนเคยเจอถึงขั้นที่ว่า ข้างซอยบ้านเขาเดินมาแล้วก็บอกว่าบ้านนี้ดาราตกอับ อยากจะกระโดดทุบหัว
ตนอยากจะบอกว่า “ดูบ้านพี่ก่อนไหมคะ เขาฟาดหนูได้ ทำไมหนูจะฟาดกลับไม่ได้” ตนเขาพูดมาตนไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะเงินเข้ากระเป๋าตน ไม่แน่ในวันข้างหน้าเค้าอาจจะกลายมาเป็นลูกค้าตนก็ได้
สำหรับตนคนที่งอมืองอเท้า คือคนที่ไม่มีค่า แต่คนที่ทำงานหาเงินตลอดเวลาคือคนที่มีค่า ซึ่งการทำงานช่องทางเดียวไม่ใช่ทางรอดในยุคนี้