‘แดน บุรีรัมย์’ จากนักร้อง สู่ตลก
ฟ้าหลังฝน ‘แดน บุรีรัมย์’ ชีวิตพลิกจากนักร้องสู่ตลกดังผู้สร้าง ‘หม่ำ จ๊กมก’ถือเป็นอีกหนึ่งเพชรเม็ดงามของวงการบันเทิงไทย

สำหรับนักร้อง นักแสดง ศิลปินตลก และนักจัดรายการวิทยุชื่อดัง ‘แดน บุรีรัมย์’ หรือชื่อจริง ‘บุญชื่น บุญเกิดรัมย์’
เพราะนอกจากบทบาทการเป็นศิลปินที่เป็นผู้มอบความสุข ความบันเทิง ให้กับคนไทยมาอย่างยาวนานแล้ว
การประพฤติปฏิบัติตัวของศิลปินรุ่นใหญ่ท่านนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับคนรุ่นใหม่หลายคนได้ยึดถือเป็นแบบอย่างอีกด้วย
สมัยก่อนผู้ใหญ่เขาบอกว่าเต้นกิน รำกิน เขาไม่ชอบเขาก็ถามว่าจะเอาตัวรอดหรอเต้นกินรำกิน ให้ทำนาอย่างเดียว แต่ใจเรามันชอบ

เพราะหัดตนตรีมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็อยากเป็นนักร้องให้ได้ชีวิตต้องพลิกผันไปเล่นตลก ตั้งวงได้ปีเดียว ‘ชลธี’ ก็แยกวง ปี 2511 ‘ชลธี’ เขาแยกวงเขาก็เอาตลกไปด้วย
วงเราที่ตั้งใหม่ไม่มีตลกผมก็เลยต้องออกไปเล่นตลก ไปเล่นตลกคนเดียว ช่วงหลัง ๆ ในปี พ.ศ. 2514 ผมเริ่มผันตัวเองมาเล่นตลก
เพราะได้เงินจำนวนมากกว่าการเป็นนักร้องนักดนตรีผมก็เลยตัดสินใจแยกออกมาตั้งคณะเองชื่อว่า ‘สี่ดาว’ กับเพื่อน ๆ
แต่หลังจากนั้นพอวงเริ่มอิ่มตัวเพื่อน ๆ หลายคนก็แยกย้ายกันไปอยู่กับคณะอื่น ๆผมก็เลยตัดสินใจแยกออกมาตั้งคณะเองชื่อว่า ‘สี่ดาว’ กับเพื่อน ๆ
แต่หลังจากนั้นพอวงเริ่มอิ่มตัวเพื่อน ๆ หลายคนก็แยกย้ายกันไปอยู่กับคณะอื่น ๆเราก็เลยต้องยุบคณะไป แต่ตอนนั้นดีที่ผมยังมีโอกาสได้เล่นหนัง
หรือละครทางทีวีบ้าง ก็เลยยังพอเลี้ยงตัวเองได้ หลายคนไม่รู้ว่าเราเป็นคนตั้งชื่อให้ ‘หม่ำ’ ด้วยตอนนั้น ‘เทพ โพธิ์งาม’ เขาหาตลกก็มีมาสมัครกันเยอะ
ใครเล่นได้ อยู่ได้ แต่ที่มาสมัครก็เยอะ เดือนนึงถ้าไม่เข้าตาเขาก็ให้ออกแล้ว ‘หม่ำ’ มาตอนหลังเพื่อนเลย เขามาสมัครก็อยู่ได้ พอใกล้จะครบเดือนเขาก็จะเดินออกแล้ว ก็เลยเป็น ‘หม่ำ’ อย่างทุกวันนี้
จริง ๆ อาชีพนี้ผมชอบนะ แล้วก็อยู่แบบนี้มาค่อนชีวิตเลย รักลูกทุ่ง ชอบลูกทุ่ง จะว่าทิ้งเลยก็ไม่เชิง เรายังรักอยู่ แต่จะรับงานให้น้อยหน่อย
เพราะไม่สบายนานแล้วสิ่งหนึ่งที่รักมากคือภรรย า ผมมีภรรย าคนเดียว อยู่กันมาตั้งแต่แต่งงานมาเมื่อปี 2511 ที่รู้จักกันเพราะสอนเขาเต้นลูกน้องเรา
เพราะตอนนั้นผมตั้งวงแล้วไม่มีนักร้อง เรารักเขา รักชอบเขา ก็เลยสนิทเป็นส่วนตัว เราได้อยู่ทุกช่วงชีวิตของเขาจนมาถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต
เราก็ตั้งใจมาโดยอย่างนั้นตลอด เราอยู่ด้วยกันมา 50 ปีได้นักร้องมันจนมาก เรานอนหนุนหมอนแล้วให้เค้านอนหนุนแขนเรา
ตั้งแต่เขาล้มวันนั้นคือวันเกิดเสรี รุ่งสว่าง พอดี เรานอนร้องไห้คนเดียวไหม เคยมีเขาแล้วไม่มี บ้านก็ว่าง ลูกๆก็แยกไปทำงานหมด
เหลือเราคนเดียว ยังดีที่ได้ลูกสาวที่เป็นลูกเลี้ยงเรานึกถึงมาก เพราะเขาเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของชีวิต
เราจะอยู่จะรักกันไปกระทั่งจากไป ก็จากไปจริงๆพอเขาจากไปไม่เท่าไหร่ผมก็ป่ วยเลย ผมก็เป็นเหมือนเขา